ปริมาณถั่วที่แนะนำต่อวันสำหรับวัยทำงาน | แม่เฒ่าเอียด

ปริมาณถั่วที่แนะนำต่อวันสำหรับวัยทำงาน กินเท่าไหร่ถึงจะดี?

7 เมนูเฮลตี้จากเม็ดมะม่วงหิมพานต์เผา ทำง่าย กินดี
พฤษภาคม 23, 2025

ปริมาณถั่วที่แนะนำต่อวัน สำหรับวัยทำงาน

ในยุคที่ผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น อาหารก็กลายเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ มีภาระมากมาย และมักละเลยมื้ออาหารที่มีคุณภาพ ส่งผลให้สุขภาพเสื่อมถอยลงโดยไม่รู้ตัว

หนึ่งในอาหารว่างที่ได้รับความนิยมและถือว่าเป็น “อาหารสุขภาพ” อย่างแท้จริง ก็คือ “ถั่ว” ไม่ว่าจะเป็นอัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ วอลนัท ถั่วลิสง หรือแม้แต่เมล็ดพืชจำพวกเมล็ดฟักทองและเมล็ดทานตะวัน ล้วนมีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะโปรตีน ไขมันดี ไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย

แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า… “กินถั่ววันละเท่าไหร่ถึงจะพอดี?” กินมากไปอ้วนไหม? หรือกินน้อยไปจะได้ประโยชน์หรือเปล่า?

วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกว่า ปริมาณถั่วที่เหมาะสมต่อวันสำหรับวัยทำงานควรเป็นเท่าไหร่ พร้อมข้อควรรู้ที่ควรระวัง และประโยชน์ที่น่าทึ่งของถั่วที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!

ถั่ว…ของว่างเล็ก ๆ ที่ช่วยให้สุขภาพดีได้ทุกวัน!


ถั่ว คืออะไร? ทำไมถึงควรเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน

“ถั่ว” หมายถึงเมล็ดพืชตระกูลถั่วหรือเมล็ดพืชเปลือกแข็งที่กินได้ ไม่ว่าจะเป็นถั่วเปลือกแข็ง (เช่น อัลมอนด์ วอลนัท พิสตาชิโอ) หรือถั่วที่มาจากพืชตระกูลถั่ว (เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว) ต่างก็มีคุณค่าทางโภชนาการที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ เป็นแหล่งพลังงานที่อัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์

ถั่วดีต่อร่างกายเพราะ…

  • ✅ มีไขมันดี (ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน)

  • ✅ อุดมด้วยโปรตีนจากพืช

  • ✅ มีไฟเบอร์สูง ช่วยให้ขับถ่ายดี

  • ✅ ให้พลังงานสูง ช่วยให้ไม่หิวบ่อย

  • ✅ มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน E ซีลีเนียม และฟลาโวนอยด์

  • ✅ มีแร่ธาตุจำเป็น เช่น แมกนีเซียม แคลเซียม ธาตุเหล็ก สังกะสี โพแทสเซียม

ด้วยเหตุนี้ ถั่วจึงเป็น “ของว่างเพื่อสุขภาพ” ที่เหมาะมากสำหรับคนวัยทำงานที่ต้องการพลังงานระหว่างวันแต่ไม่อยากอ้วน


ปริมาณถั่วที่แนะนำต่อวัน: เท่าไหร่ถึงจะพอดี?

องค์การอนามัยโลก (WHO) และสถาบันโภชนาการในหลายประเทศแนะนำให้บริโภค ถั่ววันละประมาณ 1 อุ้งมือ (ประมาณ 28-30 กรัม หรือประมาณ 1 ออนซ์) เป็นปริมาณที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป รวมถึงกลุ่มวัยทำงานด้วย

ตัวอย่างปริมาณถั่วที่ควรกินต่อวัน:

  • 🟢 อัลมอนด์: 20–23 เม็ด (≈ 28 กรัม)

  • 🟢 เม็ดมะม่วงหิมพานต์: 16–18 เม็ด

  • 🟢 วอลนัท: 7–9 ซีก

  • 🟢 พิสตาชิโอ: 40–45 เม็ด (แบบไม่แกะเปลือก)

  • 🟢 ถั่วลิสง: 30–35 เม็ด

ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบกินถั่วรวม ก็สามารถแบ่งกินชนิดละเล็กละน้อยได้ในปริมาณรวมไม่เกิน 1 กำมือต่อวัน

หมายเหตุ: ถั่วให้พลังงานสูง (ประมาณ 160–200 kcal ต่อ 1 ออนซ์) หากกินมากเกินไปจะส่งผลต่อน้ำหนักตัวได้


ถ้ากินถั่วมากเกินไป จะเกิดอะไรขึ้น?

แม้ถั่วจะดีต่อสุขภาพ แต่การบริโภคในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น:

  • น้ำหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะถั่วมีไขมันและพลังงานสูง

  • ระบบย่อยอาหารแปรปรวน เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ จากไฟเบอร์สูงเกินไป

  • เสี่ยงต่อการได้รับโซเดียมมากเกิน หากกินถั่วเค็ม/อบเกลือเป็นประจำ

  • สำหรับบางคน อาจเกิดอาการแพ้ถั่ว เช่น คัน ระคายเคือง หรือถึงขั้นรุนแรง


ประโยชน์ของถั่วสำหรับวัยทำงาน

คนวัยทำงานต้องใช้ทั้งสมองและร่างกายทุกวัน การเลือกกินถั่วให้เป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณมีสุขภาพดีจากภายใน โดยเฉพาะ:

1. บำรุงสมองและระบบประสาท

ในถั่วมีโอเมก้า-3 วิตามิน E และแมกนีเซียม ซึ่งช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น เพิ่มความจำ และลดความเครียด

2. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

ไขมันไม่อิ่มตัวจากถั่วช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL) และเพิ่มคอเลสเตอรอลดี (HDL)

3. ควบคุมน้ำหนักได้ดี

แม้ถั่วจะให้พลังงานสูง แต่ไขมันในถั่วเป็นไขมันดี และไฟเบอร์ในถั่วช่วยให้อิ่มนาน ลดการกินจุบจิบได้

4. เสริมภูมิคุ้มกัน

ถั่วหลายชนิดมีซีลีเนียมและสังกะสี ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเจ็บป่วยง่าย

5. ดีต่อระบบย่อยอาหาร

ไฟเบอร์ในถั่วช่วยเพิ่มกากใยในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี


เลือกถั่วอย่างไรให้ได้ประโยชน์เต็มที่?

ถั่วมีทั้งแบบดิบ อบ อบเกลือ เคลือบน้ำตาล หรือทอด ซึ่งแต่ละแบบส่งผลต่อสุขภาพต่างกัน

คำแนะนำในการเลือกถั่ว

✅ เลือก “ถั่วอบ” หรือ “ถั่วดิบ” ที่ไม่ผ่านการทอด
✅ หลีกเลี่ยงถั่วเคลือบน้ำตาล ถั่วรสมัน/เค็มจัด
✅ อ่านฉลากโภชนาการก่อนซื้อ (ดูปริมาณโซเดียมและน้ำตาล)
✅ เก็บในภาชนะปิดสนิท หลีกเลี่ยงความชื้น และเก็บในที่เย็น


เคล็ดลับกินถั่วในชีวิตประจำวัน

อยากเริ่มกินถั่วให้ได้ประโยชน์แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง? ลองใช้ไอเดียง่าย ๆ เหล่านี้:

  • เติมถั่วลงในโยเกิร์ตหรือข้าวโอ๊ตยามเช้า

  • โรยถั่วลงในสลัดแทนเบคอนหรือครูตอง

  • ใส่ถั่วลงในสมูทตี้ หรือบดเป็นเนยถั่วแบบโฮมเมด

  • ใช้ถั่วแทนของว่างระหว่างวัน เช่น แทนขนมขบเคี้ยว

  • พกถั่วติดกระเป๋าไว้เป็นของว่างยามเร่งรีบ


สรุป: กินถั่ววันละนิด สุขภาพดีทั้งวัน

สำหรับวัยทำงานที่ต้องการรักษาสุขภาพ พร้อมมีพลังในการทำงาน ถั่วถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ควรนำมาอยู่ในชีวิตประจำวัน เพียงกินวันละ ประมาณ 28-30 กรัม หรือ 1 กำมือ ก็ช่วยเติมพลังงาน เสริมสมอง และดูแลหัวใจได้อย่างครบถ้วน

อย่างไรก็ตาม ควรเลือกถั่วที่ดีต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงถั่วปรุงแต่งมากเกินไป และไม่กินเกินปริมาณที่แนะนำ เพื่อไม่ให้กลายเป็นโทษกับร่างกายแทน