เมื่อพูดถึงของกินเล่นในช่วงที่ต้องใช้สมาธิสูง เช่น ช่วงสอบ ช่วงเตรียมพรีเซนต์ หรือทำงานสายครีเอทีฟ หลายคนอาจนึกถึงกาแฟ หรือเครื่องดื่มชูกำลัง แต่รู้ไหมว่า “พิสตาชิโออบกรอบ” กำลังกลายเป็นทางเลือกใหม่ของคนรุ่นใหม่ที่อยากได้พลังสมองแบบยั่งยืน ไม่สวิง ไม่วูบ
พิสตาชิโออุดมไปด้วย โปรตีนจากพืช, กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFA), ไฟเบอร์, วิตามิน B6, แมกนีเซียม, โพแทสเซียม และ สารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของสมองอย่างมีประสิทธิภาพ
ลองนึกภาพว่า… ถ้ามีพิสตาชิโออยู่ติดโต๊ะตลอดทั้งวัน จะช่วยให้เราคิดงานไวขึ้น สมองแล่นขึ้นแค่ไหน? มาดูกันว่าใน 1 วันของคนที่เรียนหนัก ทำงานหนัก หรือคิดงานไม่หยุด เขากินพิสตาชิโอกันยังไง?
เริ่มต้นวันด้วยกาแฟดำ + พิสตาชิโอ 1 กำมือ
“การกินพิสตาชิโอคู่กับกาแฟทำให้รู้สึกอิ่มนาน และไม่ใจสั่นเหมือนตอนกินกาแฟเปล่า” – วัยเรียนปี 3 คณะนิเทศศาสตร์
หลังจากโฟกัสกับเนื้อหาหนักๆ มา 2 ชั่วโมง พักเบรกด้วยพิสตาชิโออบกรอบ
หลังกินข้าวเที่ยง หลายคนง่วง! ลองพิสตาชิโอคู่กับน้ำเปล่าเย็นๆ หรือชามะลิไม่หวาน
ช่วงบ่ายคือเวลาที่ต้องใช้สมาธิสูงสุด
“บางครั้งแค่ได้แกะเปลือกพิสตาชิโอก็เหมือนได้พักสมองแบบไม่น่าเบื่อ” – นักออกแบบ UX
ระหว่างดูซีรีส์หรือไถ TikTok พักสมองด้วยถั่วพิสตาชิโอ
สมองมนุษย์มีไขมันเป็นองค์ประกอบมากถึง 60% โดยเฉพาะกรดไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งพิสตาชิโอมีมากพอที่จะช่วยการทำงานของระบบประสาทให้เสถียรขึ้น
วิตามิน B6 ช่วยในการสร้างสารสื่อประสาท เช่น serotonin, dopamine และ norepinephrine ซึ่งมีผลต่ออารมณ์ ความจำ และการโฟกัส
ช่วยให้ไม่ต้องลุกไปหาขนมบ่อยๆ ขณะอ่านหนังสือหรือทำงาน
ช่วยลดอาการสมองล้า อ่อนเพลียจากการใช้สายตาและคิดงานต่อเนื่อง
พิสตาชิโออบกรอบไม่ได้เป็นแค่ของกินเล่น แต่เป็น snack ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนสมองให้พร้อมทำงานในโลกที่ต้องใช้ความคิดและสมาธิตลอดเวลา เหมาะมากกับคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z ที่ต้องบาลานซ์ระหว่างความสนุก ความเฮลตี้ และประสิทธิภาพในการใช้ชีวิต
อย่าลืมพกพิสตาชิโอไว้ข้างตัวในทุกวัน เพราะบางที… ไอเดียดีๆ ก็อาจเริ่มต้นจากถั่วเม็ดเล็กๆ นี้เอง!