ทำไมพิสตาชิโอและอัลมอนด์ถึงช่วยลดคอเลสเตอรอล? | แม่เฒ่าเอียด

พิสตาชิโอและอัลมอนด์ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้อย่างไร

5 ธัญพืชที่ผู้สูงอายุควรกินทุกวัน
5 ธัญพืชที่ผู้สูงอายุควรกินทุกวัน
สิงหาคม 15, 2025
พิสตาชิโอและอัลมอนด์ส่งผลดีต่อหัวใจและหลอดเลือด

เมื่อพูดถึงคำว่า “ไขมัน” หลายคนอาจรู้สึกกังวลเพราะมักเชื่อมโยงกับโรคอ้วน ความดันสูง และโรคหัวใจ แต่ในความเป็นจริง ไขมันไม่ได้มีแต่โทษเสมอไป หากเลือกทานอย่างถูกต้อง ไขมันบางชนิดกลับมีประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจ ความแตกต่างระหว่างไขมันดี (HDL) และไขมันเลว (LDL) พร้อมเจาะลึกว่า พิสตาชิโอและอัลมอนด์ ซึ่งเป็นสองธัญพืชยอดนิยม มีบทบาทสำคัญอย่างไรในการลดคอเลสเตอรอลและป้องกันโรคหัวใจ

รู้ไหมคะว่า... “ไขมัน” ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป!

1. ไขมันคืออะไร และทำไมเราต้องการไขมัน?

ไขมัน (Fat) เป็นหนึ่งในสารอาหารหลัก (Macronutrients) เช่นเดียวกับโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ร่างกายของเราต้องการไขมันเพื่อ:

  • สร้างพลังงาน (1 กรัมไขมันให้พลังงานถึง 9 แคลอรี มากกว่าคาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีนถึง 2 เท่า)
  • ดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น A, D, E และ K
  • รักษาความอบอุ่นของร่างกาย
  • ปกป้องอวัยวะภายใน
  • สร้างฮอร์โมนและสารสำคัญในระบบประสาท

แต่…ไม่ใช่ไขมันทุกชนิดที่ดีต่อสุขภาพ เราจึงต้องแยกความแตกต่างระหว่างไขมันดีและไขมันเลว

2. ไขมันดี vs ไขมันเลว ต่างกันอย่างไร?

ไขมันเลว (LDL: Low-Density Lipoprotein)

  • เป็นไขมันที่เมื่อมีมากเกินไปจะไปสะสมในผนังหลอดเลือด
  • ทำให้หลอดเลือดตีบและแข็ง เกิดภาวะ หลอดเลือดอุดตัน (Atherosclerosis)
  • เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง

ไขมันดี (HDL: High-Density Lipoprotein)

  • ทำหน้าที่เหมือน “เครื่องเก็บขยะ” ของระบบหลอดเลือด
  • ช่วยพาไขมันส่วนเกินและ LDL กลับไปสู่ตับเพื่อกำจัดออกจากร่างกาย
  • ระดับ HDL สูง มักสัมพันธ์กับความเสี่ยงโรคหัวใจที่ต่ำลง

3. ประเภทของไขมันในอาหาร

  1. ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat) – พบมากในเนื้อสัตว์ติดมัน หนังสัตว์ เนย
    • หากทานมากเกินไปจะเพิ่มระดับ LDL
  2. ไขมันทรานส์ (Trans Fat) – พบในอาหารแปรรูป เช่น มาร์การีน คุกกี้ ขนมกรอบ
    • เป็นไขมันอันตรายที่สุด ควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด
  3. ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fat) – พบในอัลมอนด์ พิสตาชิโอ น้ำมันมะกอก
    • ช่วยลด LDL และเพิ่ม HDL
  4. ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated Fat) – เช่น โอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 ในถั่วและเมล็ดพืช
    • ดีต่อสมอง หัวใจ และลดการอักเสบในร่างกาย

4. พิสตาชิโอ: ธัญพืชสีเขียวเพื่อหัวใจ

คุณค่าทางโภชนาการ (ต่อ 28 กรัม / ประมาณ 49 เมล็ด)

  • แคลอรี: 160
  • ไขมัน: 13 กรัม (ส่วนใหญ่เป็นไขมันไม่อิ่มตัว)
  • โปรตีน: 6 กรัม
  • ไฟเบอร์: 3 กรัม
  • ลูทีนและซีแซนทีน: สารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อดวงตา

พิสตาชิโอกับคอเลสเตอรอล

งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า การทานพิสตาชิโออย่างสม่ำเสมอช่วย:

  • ลดระดับ LDL (ไขมันเลว)
  • เพิ่มระดับ HDL (ไขมันดี)
  • ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ

กลไกการทำงาน

  • ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวในพิสตาชิโอช่วยปรับสมดุลไขมันในเลือด
  • ไฟเบอร์ช่วยจับคอเลสเตอรอลในลำไส้และขับออก
  • สารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการอักเสบของผนังหลอดเลือด

5. อัลมอนด์: ของว่างเพื่อสมองและหัวใจ

คุณค่าทางโภชนาการ (ต่อ 28 กรัม / ประมาณ 23 เม็ด)

  • แคลอรี: 160
  • ไขมัน: 14 กรัม (ส่วนใหญ่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว)
  • โปรตีน: 6 กรัม
  • ไฟเบอร์: 3.5 กรัม
  • วิตามินอี: 37% ของความต้องการต่อวัน

อัลมอนด์กับคอเลสเตอรอล

อัลมอนด์เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายว่าเป็น “ถั่วลดคอเลสเตอรอล” โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง

งานวิจัยตีพิมพ์ใน Journal of the American Heart Association พบว่า การทานอัลมอนด์แทนของว่างทั่วไป สามารถลดระดับ LDL ได้ชัดเจน และยังช่วยคงระดับ HDL ให้อยู่ในเกณฑ์ดี

กลไกการทำงาน

  • ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวช่วยลด LDL โดยตรง
  • วิตามินอีทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการเกิดออกซิเดชันของ LDL ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ทำให้เกิดหลอดเลือดอุดตัน
  • ไฟเบอร์ในอัลมอนด์ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในลำไส้

6. พิสตาชิโอ vs อัลมอนด์: ถั่วชนิดไหนดีกว่ากัน?

คุณสมบัติพิสตาชิโออัลมอนด์
ไขมันไม่อิ่มตัวสูงสูงมาก
วิตามินอีปานกลางสูง
ลูทีน & ซีแซนทีนสูงต่ำ
โปรตีน6 กรัม6 กรัม
ผลต่อ HDL/LDLดีดีเยี่ยม

👉 คำตอบคือ ทั้งคู่ดีพอ ๆ กัน แต่เสริมกันได้

  • ถ้าอยากเน้น หัวใจและการมองเห็น → พิสตาชิโอ
  • ถ้าอยากเน้น สมองและผิวพรรณ → อัลมอนด์

7. วิธีทานให้ได้ประโยชน์สูงสุด

  1. เลือกแบบไม่ใส่เกลือและไม่เคลือบน้ำตาล – เกลือมากไปทำให้เสี่ยงความดันสูง น้ำตาลเพิ่มพลังงานส่วนเกิน
  2. กินในปริมาณพอเหมาะ – ประมาณ 1 กำมือ (28 กรัม) ต่อวัน
  3. ทานแทนของว่างไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น มันฝรั่งทอดหรือขนมหวาน
  4. เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ – บดหรือสับให้เล็กลงหากฟันไม่แข็งแรง

8. งานวิจัยสนับสนุน

  • งานวิจัยใน American Journal of Clinical Nutrition พบว่า คนที่ทานถั่ววันละ 1–2 กำมือ มีความเสี่ยงโรคหัวใจลดลงถึง 30%
  • การศึกษาที่ Penn State University พบว่า พิสตาชิโอช่วยลด LDL ลงเฉลี่ย 9–12% หลังจากทานต่อเนื่อง 1 เดือน
  • การทดลองในผู้ที่มีคอเลสเตอรอลสูง พบว่า การกินอัลมอนด์วันละ 42 กรัม ช่วยลด LDL ได้ถึง 7–10% ภายใน 6 สัปดาห์

9. ใครควรระวังการทานถั่ว?

  • ผู้ที่แพ้ถั่วเปลือกแข็ง (Nut allergy)
  • ผู้ที่ควบคุมแคลอรีอย่างเข้มงวด เนื่องจากถั่วให้พลังงานสูง
  • ควรระวังการเก็บรักษา เพราะถั่วอาจหืนหรือติดเชื้อราได้ง่าย

สรุป

ไขมันไม่ได้เลวร้ายเสมอไป หากเลือกทานไขมันดีจากแหล่งที่เหมาะสม เช่น พิสตาชิโอและอัลมอนด์ ซึ่งอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว วิตามินอี ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ การทานถั่วเหล่านี้ทุกวันในปริมาณพอเหมาะจะช่วย ลด LDL เพิ่ม HDL ป้องกันโรคหัวใจ และเสริมสุขภาพระยะยาว

ดังนั้น อย่ากลัวไขมัน แต่จงเลือก “ไขมันดี” เข้าสู่ร่างกาย แล้วหัวใจ สมอง และหลอดเลือดของคุณจะขอบคุณในระยะยาว