ประโยชน์กินมะม่วงหิมพานต์ไม่ต้องกลัวโรคหัวใจ

ประโยชน์กินมะม่วงหิมพานต์ไม่ต้องกลัวโรคหัวใจ

cake
มัฟฟินฟักทองญี่ปุ่นเพื่อสุขภาพ (Pumkin Muffins)
มิถุนายน 29, 2018
ใบมะม่วงหิมพานต์
ผลงานวิจัยยอดอ่อนมะม่วงหิมพานต์มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
กรกฎาคม 1, 2018
มะม่วงหิมพานต์ ประโยชน์

ประโยชน์ มะม่วงหิมพานต์กับโรคหัวใจ

ถึงแม้ว่าของว่างอย่างถั่วมีไขมัน แต่ก็เป็นไขมันที่มีคุณภาพดี คือเป็น “ไขมันไม่อิ่มตัว”นั่นเอง

ขนมขบเคี้ยวและอาหารว่างนั้นมีหลายชนิด เมื่อพูดถึงแล้วก็พานถูกโยงไปถึงอาหารที่ไม่มีประโยชน์มีไขมันมาก ถึงแม้ว่าของว่างอย่างถั่วมีไขมัน แต่ก็เป็นไขมันที่มีคุณภาพดี คือเป็น “ไขมันไม่อิ่มตัว”นั่นเอง

ถั่วแต่ละชนิดมีไขมันไม่อิ่มตัวอยู่มากน้อยต่างกันไป  เราสามารถเลือกได้จากการอ่านฉลากซึ่งต้องระบุไว้ชัดเจน ไขมันที่ว่านี้ ถ้ากินในปริมาณที่พอดี ไม่มากเกินไป ก็มีสรรพคุณช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลที่อยู่ตามหลอดเลือดได้ นั่นหมายถึงไขมันในถั่วทั้งหลายเป็นไขมันชนิดดี หรือไขมัน “พระเอก”ก็ว่าได้  แตกต่างจากไขมัน “ผู้ร้าย” อีกชนิด คือ “ไขมันอิ่มตัว”ซึ่งมักจะไปเกาะตามผนังหลอดเลือดต่างๆ ทำให้เกิดการอุดตัน

มีงานวิจัยพบว่าผู้ที่เคยกินขนมปังและขนมกรุบกรอบเป็นประจำนั้น เมื่อเปลี่ยนมากินถั่วแทน ก็สามารถลดคอเลสเตอรอลซึ่งเป็นตัวการสำคัญของโรคหลอดเลือดหัวใจลงไปได้ถึง 5–14 % แตกต่างกันไปตามสภาพร่างกายและอาหารการกินอื่นๆของคนกลุ่มตัวอย่างภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบจากการอุดตันของคอเลสเตอรอลนี้ จะนำไปสู่ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน นำไปสู่การเสียชีวิตจากการหัวใจวายได้

ไขมันอิ่มตัวที่น่ากลัวนี้ พบมากในไขมันจากเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะหมูสามชั้น กากหมู หนังไก่ หนังเป็ด และที่พบได้ในเนยเทียม แต่พบน้อยในถั่วชนิดต่างๆ

ฉะนั้นการกินถั่วเป็นอาหารว่าง แทนขนมขบเคี้ยวที่ทำจากแป้งหรือขนมปังต่างๆ ร่วมกับการกินอาหารอื่นๆอย่างสมดุล จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจลงไปได้

แหล่งข้อมูล 

บทความ “มากินถั่ว….เพื่อสุขภาพที่ดีกันเถอะ”
โดย ผศ. วันทนีย์ เกรียงสินยศ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล

นอกจากโรคหัวใจแล้วก็ยังช่วยเรื่องอื่นๆอีกมากมายค่ะ

  1. ประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ได้ดี
  2. ประโยชน์ของมะม่วงหิมพานต์ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี
  3. เม็ดมะม่วงหิมพานต์สามารถช่วยรักษารูปร่างให้สมส่วนได้ เพราะมีเส้นใยอาหารสูง จึงช่วยลดการดูดซึมไขมันได้
  4. การรับประทานถั่วเป็นประจำจะช่วยทำให้อิ่มนานขึ้นและรับประทานอาหารได้น้อยลงอีกด้วย (ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม)
  5. เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นผลไม้ที่ผู้ป่วยโรคเกาต์สามารถรับประทานได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นผลไม้ที่มีสารพิวรีนน้อยหรือไม่มีเลย
  6. เมล็ดมะม่วงหิมพานต์นิยมนำมารับประทานเป็นอาหารว่าง และยังเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกของประเทศอินเดีย เวียดนาม และบราซิลอีกด้วย (90% ของการส่งออกทั่วโลกมาจากสามประเทศนี้)
  7. ผลของมะม่วงหิมพานต์มีเนื้อนิ่ม ฉ่ำน้ำ รสเปรี้ยว สามารถรับประทานเป็นผลไม้สดได้ทั้งผลดิบและผลสุก
  8. ผลห่ามของมะม่วงหิมพานต์ ทางภาคใต้ของไทยนิยมนำใช้ทำแกงส้มหรือใช้ยำ
  9. มะม่วงหิมพานต์ ประโยชน์ผลดิบใช้รับประทานร่วมกับเกลือเป็นของกินเล่นได้
  10. ผลสุกสามารถนำไปหมักทำไวน์ ทำน้ำส้มสายชู หรือเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆได้
  11. เมล็ดสามารถนำไปประกอบอาหารได้ เมนูเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ แหนมผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เต้าหู้ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ขนมจีนผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น
  12. ใบอ่อน ยอดอ่อน สามารถใช้รับประทานเป็นผักสดร่วมกับน้ำพริก หรือแกงเผ็ด ลาบ ก้อย ขนมจีนน้ำยาได้
  13. ใบแก่สามารถนำมาขยี้และใช้สีฟันได้
  14. ไม้จากลำต้นเป็นไม้เนื้ออ่อนและมีขนาดเล็ก มันจึงเหมาะที่จะนำไปใช้ทำลังไม้ หรือหีบใส่ของ ทำเฟอร์นิเจอร์ ใช้ต่อเรือ ใช้ทำเรือเอก แอกเทียม วัวเทียมควายเทียม คุมล้อเกวียน และยังนำไปทำเป็นฟืนและถ่านได้อีกด้วย
  15. ยางจากเปลือกของเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ควาญช้างในประเทศอินเดียนำมาใช้เพื่อคุมช้างให้เชื่องได้
  16. ยางจากลำต้น สามารถนำมาใช้ทาบ้านกันปลวกได้
  17. เปลือกต้นหรือเปลือกเมล็ด มีประโยชน์หลายอย่างในด้านของอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น สามารถนำไปทำเป็นผ้าเบรค และแผ่นคลัชได้ ซึ่งจะมีคุณสมบัติทนความร้อนที่เกิดจากแรงเสียดได้สูง หรือนำมาใช้ทำฉนวนป้องกันไฟฟ้าแมกนิเตอร์เมเตอร์ ใช้ทำน้ำประสานในการบัดกรีโลหะ น้ำมันชักเงาสำหรับใช้ในเครื่องบิน ใช้ผสมทำน้ำหมึก ทำหมึกประทับตราผ้า ทำเป็นลูกกลิ้งยางพิมพ์ดีด ทำกาว ใช้ย้อมอวนทนทาน ผลิตภัณฑ์ปูพื้น ใช้ผสมปูนซีเมนต์ทำให้เหนียวขึ้น ใช้กำจัดตัวอ่อนของยุงด้วยการผสมกับพาราฟินเหลว ผลิตภัณฑ์ทาไม้ป้องกันปลวก ยาฆ่าแมลงและปลวก เป็นต้น
  18. เยื่อหุ้มเมล็ดถ้ามีปริมาณมาก อาจใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตแทนนิน ที่ใช้ในอุตสาหกรรมฟอกหนังได้
  19. ประโยชน์ของเปลือกเมล็ดสกัดเป็นน้ำมัน ในด้านการแพทย์สามารถใช้รักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคเหน็บชา วัณโรค โรคเท้าช้าง โรคเลือดคั่ง โรคเรื้อน โรคผิวหนัง หูด ตาปลา และส้นเท้าแตกได้
  20. ประโยชน์ของเปลือกเมล็ด ก็สามารถใช้ประโยชน์ในด้านความงามได้ เช่น ใช้ลอกหน้าที่เกิดจากการตกกระ (แต่อาจส่งผลเสียได้) เป็นต้น
  21. ผลของมะม่วงหิมพานต์มีกลิ่นต่าง ๆ ถึง 20 กลิ่น จึงสามารถนำมาสกัดทำเป็นหัวน้ำหอมได้
  22. ผลนอกจากใช้รับประทานเป็นผลไม้ ยังสามารถนำมาเป็นอาหารสัตว์ของ โค กระบือ ได้อีกด้วย
  23. ผลสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้อย่างหลากหลาย เช่น แยม ผลไม้กวน เครื่องดื่ม น้ำมะม่วงหิมพานต์ ไวน์ น้ำส้มสายชู เป็นต้น
  24. เมล็ดสามารถนำไปแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์ได้ เช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบเกลือ เม็ดมะม่วงหิมพานต์คั่ว อบเนย อบน้ำผึ้ง เป็นต้นที่มา medthai.com