"กินทุเรียนทอดได้...โดยไม่ต้องรู้สึกผิด" | แม่เฒ่าเอียด

กินทุเรียนทอดได้…โดยไม่ต้องรู้สึกผิด

“แอปเปิ้ลอบแห้ง” ดียังไง? เทียบชัดๆ กับแอปเปิ้ลสด
มิถุนายน 23, 2025
มะม่วงอบแห้ง ของว่างประจำโต๊ะทำงาน อร่อยแบบไม่รู้สึกผิด!
มิถุนายน 25, 2025

กินทุเรียนทอดได้...โดยไม่ต้องรู้สึกผิด

ทุเรียนทอด = ศัตรูของคนรักสุขภาพ? หรือจริงๆ แล้วเป็น “ขนมเฮลตี้” ซ่อนรูป?

ในอดีต… แค่พูดคำว่า “ทุเรียนทอด” หลายคนก็ส่ายหน้า เพราะเชื่อว่ามันคือของทอดอมน้ำมัน แคลอรีสูง แถมหวานมันสุดพลัง แต่ยุคนี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนไป โดยเฉพาะ “ทุเรียนทอดเกรด A” ที่หลายเจ้าพัฒนาให้ อร่อยแบบไม่ต้องรู้สึกผิด ได้จริง!


ทุเรียนทอดสูตรใหม่…ไม่เหมือนเดิม

การผลิตทุเรียนทอดที่ดีในยุคนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติ แต่ต้องใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภคด้วย นี่คือสิ่งที่ทุเรียนทอดเกรด A ทำได้:

  • ไม่อมน้ำมัน: ผ่านการทอดด้วยอุณหภูมิควบคุม ใช้น้ำมันใหม่ และผ่านกระบวนการลดไขมันหลังทอด เช่น การสลัดน้ำมันหรือการอบซ้ำ

  • ไม่มีน้ำตาล: ใช้ทุเรียนหมอนทองสุกหอมจากธรรมชาติ ไม่เติมน้ำตาลเพิ่ม

  • ไม่มีสารกันบูด / สีสังเคราะห์: เน้นกระบวนการธรรมชาติ 100%

  • บาง กรอบ กินง่าย: ไม่ใช่ทุเรียนชิ้นหนาแข็งแบบเดิม แต่บางเฉียบ กรอบนาน เคี้ยวเพลิน


ทุเรียนทอดกับสายเฮลตี้: ไปด้วยกันได้ไหม?

คำตอบคือ “ได้แน่นอน” ถ้ารู้จักเลือกและกินอย่างมีสติ

แม้ทุเรียนจะเป็นผลไม้ที่มีไขมันตามธรรมชาติ แต่ไขมันในทุเรียนเป็น “ไขมันดี” (Monounsaturated Fat) และยังมีใยอาหาร วิตามิน C และโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

เมื่อนำมาทำเป็น ทุเรียนทอดเกรด A สูตรน้ำมันน้อย จึงยังคงมีคุณค่าทางอาหารอยู่บ้าง แถมตอบโจทย์คนที่อยากกินของว่างที่:

  • ไม่ใส่น้ำตาลเพิ่ม

  • ไม่ชุบแป้งหรือคลุกน้ำตาล

  • ให้ความรู้สึกเหมือนกินขนม แต่ไม่ทำร้ายสุขภาพแบบขนมสำเร็จรูป

กินทุเรียนทอดได้…โดยไม่ต้องรู้สึกผิด

 


เทียบแคลอรี: ทุเรียนทอด VS ขนมขบเคี้ยวทั่วไป

ของว่าง ปริมาณ แคลอรี
ทุเรียนทอดเกรด A 20 กรัม ≈ 90-110 kcal
มันฝรั่งทอดกรอบ 20 กรัม ≈ 130-150 kcal
เวเฟอร์สอดไส้ 20 กรัม ≈ 160 kcal

สรุป: ทุเรียนทอดที่เลือกสูตรน้ำมันน้อย จะให้พลังงานต่ำกว่าขนมขบเคี้ยวหลายชนิด และไม่มีสารปรุงแต่งรสหรือโซเดียมสูง


สารอาหารจากทุเรียน…ยังหลงเหลืออยู่บ้างไหมหลังทอด?

คำตอบคือ “บางส่วนยังอยู่” โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระ (Polyphenol), วิตามิน B และโพแทสเซียม ซึ่งทนความร้อนได้ในระดับหนึ่ง ทำให้ยังพอมีสารอาหารเหล่านี้อยู่ในทุเรียนทอด

  • โพแทสเซียม: ช่วยลดความดัน

  • วิตามิน B1, B6: บำรุงประสาท

  • ไฟเบอร์จากธรรมชาติ: ช่วยให้รู้สึกอิ่มไว ไม่กินจุกจิก


กินเมื่อไหร่ดี?

เคล็ดลับคือ “กินเป็นของว่างระหว่างวัน หรือช่วงที่รู้สึกอยากของหวาน”

ช่วงเวลาที่เหมาะ:

  • ช่วงบ่ายระหว่างทำงาน (แทนขนมหวานหรือมันฝรั่งทอด)

  • ก่อนออกกำลังกายเล็กน้อย (ให้พลังงานเร็ว)

  • ตอนดูหนังหรือพักผ่อนที่บ้าน (กินเพลิน ไม่ต้องรู้สึกผิด)

คำแนะนำ: กินครั้งละไม่เกิน 20-30 กรัม หรือประมาณ 1 กำมือ เพื่อควบคุมแคลอรี


เลือกยังไงให้ได้ “ทุเรียนทอดไม่อ้วน”

ก่อนซื้อ ลองเช็กจากสิ่งเหล่านี้:

  • ระบุชัดว่า “ไม่เติมน้ำตาล” หรือ “No Sugar Added”

  • มีฉลากโภชนาการ / ใช้น้ำมันใหม่ ไม่อมน้ำมัน

  • สีเหลืองทอง ไม่ไหม้ ไม่คล้ำ

  • กลิ่นหอมทุเรียน ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน


สรุป: ทุเรียนทอด = ขนมเฮลตี้ในแบบที่คนไม่คาดคิด!

  • ถ้าเลือกสูตรดี วัตถุดิบดี กระบวนการผลิตใส่ใจ

  • กินในปริมาณที่เหมาะสม

  • ทานเป็นของว่างเสริมพลัง หรือของกินเล่นแบบ Smart Choice

ก็สามารถทำให้ “ทุเรียนทอด” กลายเป็น ของว่างสุขภาพที่อร่อยและไม่รู้สึกผิด ได้ไม่ยากเลย