หากคุณเคยแกะพิสตาชิโอออกจากเปลือก คงสังเกตได้ทันทีว่าภายในเมล็ดมีสีเขียวอมเหลืองสวยงาม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ถั่วชนิดอื่นไม่มี บางคนอาจสงสัยว่าสีนี้มาจากไหน? เป็นสีธรรมชาติจริงหรือเปล่า?
คำตอบคือ ใช่ สีของพิสตาชิโอมาจากสารธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ภายในเมล็ด และยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายอีกด้วย
คลอโรฟิลล์ คือสารสีเขียวที่พบมากในพืชใบเขียวทุกชนิด รวมถึงพิสตาชิโอด้วย
แม้พิสตาชิโอจะเป็น “เมล็ด” แต่ยังคงมีคลอโรฟิลล์หลงเหลือจากกระบวนการสุกของผล ทำให้เมล็ดด้านในยังคงมีสีเขียวอ่อนอมเหลือง สีธรรมชาติที่สื่อถึง “ความสด” และ “คุณค่าทางอาหาร”
นอกจากให้สีสวย คลอโรฟิลล์ยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น
เมื่อคุณมองพิสตาชิโอในแสงธรรมชาติ จะเห็นว่าเนื้อเมล็ดมี “เฉดเหลืองทอง” ผสมอยู่ นั่นคือผลจาก คาโรทีนอยด์ สารสีจากธรรมชาติที่อยู่ในตระกูลเดียวกับเบต้าแคโรทีน (ที่พบในแครอท)
คาโรทีนอยด์ในพิสตาชิโอมีหลายชนิด โดยเฉพาะ
ซึ่งทั้งสองชนิดนี้มีบทบาทสำคัญในการ บำรุงสายตา ช่วยกรองแสงสีฟ้า ลดความเสี่ยงจากโรคจอประสาทตาเสื่อม และยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัยได้อีกด้วย
สีเขียวจากคลอโรฟิลล์ และสีเหลืองจากคาโรทีนอยด์ผสมผสานกันอย่างลงตัว
จึงเกิดเป็นสี “เขียวอมเหลือง” ที่เห็นในพิสตาชิโอ ซึ่งไม่เพียงสวยงาม แต่ยังสะท้อนถึงสารอาหารที่หลากหลายและมีประโยชน์
นอกจากนี้ สีของพิสตาชิโอยังเป็นสัญญาณบ่งบอก “ความสดใหม่” อีกด้วย
เมล็ดที่สีซีดหรือหม่น มักเป็นพิสตาชิโอที่เก็บไว้นาน หรือผ่านการอบที่อุณหภูมิสูงเกินไปจนสารธรรมชาติถูกทำลาย
นอกจากจะให้สีที่ดูมีชีวิตชีวาแล้ว พิสตาชิโอยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่น่าทึ่ง เช่น
และที่สำคัญคือ พิสตาชิโออบไม่มีเปลือกแบบพร้อมทาน ทำให้คุณได้รับคุณค่าสีเขียวอมเหลืองธรรมชาติแบบเต็มเมล็ด ไม่ผ่านการเคลือบ ไม่เติมสี ไม่แต่งกลิ่น
ครั้งต่อไปที่คุณเห็นพิสตาชิโอสีเขียวอมเหลือง อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นสีแต่งนะคะ เพราะนั่นคือ “ของขวัญจากธรรมชาติ” ที่ซ่อนสารอาหารล้ำค่าไว้ในทุกเมล็ดทั้งสวย อร่อย และดีต่อสุขภาพ
“พิสตาชิโอสีเขียวอมเหลือง สีที่บอกถึงชีวิตและคุณค่าของธรรมชาติ” พร้อมเสิร์ฟความอร่อยสุขภาพดีในทุกวัน กับ แม่เฒ่าเอียด